รีวิวการ์ตูนญี่ปุ่น:Oshi no Ko (2023) เกิดใหม่เป็นลูกโอชิ

เป็นชื่อที่รายล้อมไปด้วยเสียงฮือฮามาระยะหนึ่งแล้ว การเปิดตัวที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนใหญ่แล้วสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับทีมสร้างสรรค์ที่มีทั้งผลงานที่โดดเด่นและมีการประโคมข่าวอยู่แล้ว แม้ว่าโครงเรื่องที่แปลกประหลาดจะมีบทบาทในอุบายนี้อย่างปฏิเสธไม่ได้ ตอนนี้มังงะก็มาถึงแล้วและกำลังตีพิมพ์ จริงๆแล้วมันเรียงซ้อนกันอย่างไร และเราจะตรวจสอบจากซีรีส์ของเล่มแรกได้มากแค่ไหน?

ในขณะที่เล่มแรกของ “[Oshi No Ko]” บอกใบ้ถึงทิศทางในอนาคตของเรื่องราวเท่านั้น บทนำเป็นเรื่องราวของ Isekai ที่แปลกประหลาดซึ่งกำหนดความตั้งใจของซีรีส์ที่จะไปในทิศทางที่แปลกประหลาด ในขณะที่สำรวจประเด็นที่ใหญ่กว่า เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างแฟนคลับและไอดอล ความสำเร็จนี้น่าประทับใจยิ่งขึ้นในจำนวนเรื่องราวมากมายที่อัดแน่นอยู่ในเล่มแรก ในขณะเดียวกันก็จบลงที่จุดที่บ่งบอกว่าการเปิดตัวครั้งต่อ ๆ ไปจะเริ่มต้นในเส้นทางการเล่าเรื่องใหม่ทั้งหมด

เป็นที่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะวัดปริมาณโดยไม่เข้าไปอยู่ในแดนสปอยล์ แต่ผู้อ่านจะต้องประทับใจกับวิธีการของ Akasaka ที่บรรจุลักษณะพิเศษและความพลิกผันมากมายไว้ในการเปิดตัวครั้งแรก ในขณะที่ยังคงทำให้ติดตามได้ง่ายและมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งการนำเรื่องราวที่ค่อนข้างใหญ่นั้น Akasaka ยังคงสามารถสอดแทรกเรื่องราวตลกขบขันที่ทำให้ “Kaguya-sama: Love Is War” เป็นชื่อเรื่องยอดนิยมได้ นอกจากนี้ การสัมผัสกันในธีมสีเข้มยังเอนเอียงไปทางแนวจิตวิทยาเพื่อช่วยผลักดันองค์ประกอบที่น่าทึ่งยิ่งขึ้นไปอีก เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นถึงความสมดุลขององค์ประกอบการเล่าเรื่องที่หลากหลาย หนังสือเล่มนี้จึงไม่ใช่หนังตลกหรือระทึกขวัญเสียทีเดียว  รีวิวหนังแอคชั่น หนังบู๊มันๆ

แต่เป็นการหยิบยืมจากแต่ละประเภทเพื่อแยกแยะธรรมชาติที่เหนือจริงและน่าเศร้าของ “[Oshi No Ko]” สิ่งนี้ทำให้แม้แต่ช่วงเวลาทางศีลธรรมที่น่าสงสัย เช่น การเกิดใหม่ในฐานะเด็กของไอดอลให้น่ารักและแปลกประหลาดอย่างแปลกประหลาด ด้วยสีที่ชั่วร้ายซึ่งกระตุ้นศีลธรรมในสถานการณ์ดังกล่าวที่มักถูกมองข้าม หากมีสิ่งใด ศีลธรรมที่น่าอึดอัดใจและสถานการณ์ที่น่าสงสัยจะมีเสน่ห์แปลกๆ ที่ทำให้ใครก็ตามที่หลงใหลในหลักฐานของหนังสือหรือสนใจในตัวผู้สร้างต้องสนใจหนังสือเล่มนี้อย่างใกล้ชิด

Comments

Popular posts from this blog

รีวิวหนัง :The Boy the Mole the Fox and the Horse (2022)

รีวิวหนัง Frozen2 ผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ

รีวิวหนัง:Marcel the Shell with Shoes On (2021)