รีวิวหนัง : ๙ ศาสตรา

นับเป็นเวลาหลายปีแล้วที่วงการภาพยนตร์แอนิเมชั่นไทยไม่ค่อยมีผลงานออกมาให้แฟนหนังได้ชมเท่าที่ควร จนไม่กี่ปีมานี้ค่ายหนังน้องใหม่อย่าง เอ็กซ์ฟอร์แมท ฟิล์มส์ ได้สร้างโปรเจกต์ยักษ์ที่ใช้เวลานานกว่า 4 ปี กับทุนสร้างกว่า 200 ล้านบาท เพื่อให้กำเนิดแอนิเมชั่น ๙ ศาสตรา ฝีมือผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรง กันย์ พันธ์สุวรรณ และ ณัฐ ยศวัฒนานนท์ แน่นอนว่าตอนนี้ก็เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไปเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง

๙ ศาสตรา ว่าด้วยเรื่องราวการผจญภัยของ อ๊อด เด็กหนุ่มที่ชะตาลิขิตให้เป็นส่วนหนึ่งในการกอบกู้อาณาจักร รามเทพนคร แผ่นดินเกิดของเขาให้รอดพ้นอำนาจของ เทหะยักษา เจ้าแห่งยักษ์ผู้เข้ามายึดครองอาณาจักร และก่อความทุกข์เข็ญให้กับเหล่าประชาชน ซึ่ง อ๊อด ได้ฝึกฝนเคี่ยวกรำร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้มวยไทยที่เคยหายสาบสูญไปจากครูมวยอันดับหนึ่งของแผ่นดิน รีวิวหนังผี หนังสยองขวัญ

อ๊อด มีภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการนำสุดยอดศาสตราวุธ ๙ ศาสตรา ไปมอบให้องค์ชายรัชทายาทแห่ง รามเทพนคร เพื่อใช้ในการกอบกู้อาณาจักร พร้อมกับพลพรรคเพื่อนพ้อง ไม่ว่าจะเป็น เสี่ยวหลาน โจรสลัดอากาศสาวงามชาวจีน พร้อมด้วยลิงทะโมน วาตะ เจ้าชายแห่งอาณาจักรลิง รวมถึง อสูรสีชาด ยักษ์สีแดงร่างใหญ่ใจดี

อ๊อดและพรรคพวกจะสามารถทำภารกิจนี้ให้สำเร็จได้อย่างไร เขาจะคว้าชัยชนะในศึกครั้งใหญ่กับกองทัพโหดทมิฬมหึมาของเหล่ายักษาได้หรือไม่ ใครคือวีรบุรุษที่จะมาช่วยปลดปล่อยประชาชนที่ตกเป็นทาสจากอำนาจมืดนี้

ต้องยอมรับว่าการสร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่นในบ้านเรานั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยงพอสมควร ที่สำคัญที่สุดคือรายได้ของหนังที่ส่วนมากนอกจากจะไม่ได้กำไรแล้ว ซ้ำมีน้อยเรื่องนักที่จะได้ทุนคือ อีกทั้งเรื่องราวของหนังยังเป็นส่วนสำคัญที่ดึงดูดใจให้ผู้ชมอยากดู และ ๙ ศาสตราก็ถือว่ามาได้จังหวะพอดิบพอดี ทั้งกำหนดการเข้าฉายตอนรับวันเด็กแห่งชาติ แน่นอนว่าน่าจะมีผู้ปกครองไม่น้อยต้องพาลูกหลานไปดูหนังฉลองวันเด็ก

จากตัวอย่างหนังก็พอจะทราบกันดีว่าพล็อตเรื่องไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร ออกจะเชยไปนิดนึง เพราะด้วยการเลือกใช้ตัวละคย้อนยุค วิธีการพูดของตัวละคร แต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ดี ด้วยการดีไซน์ตัวละครนั้นทำออกมาได้ดีมาก ค่อนข้างละเอียด ดูแล้วไม่ลอย สัดส่วนดูเป็นธรรมชาติ ในเรื่องของการฉากแอ็คชั่นก็มีความสนุกและทันสมัยคล้ายกับเกมที่เล่นกัน อาวุธที่สำคัญในเรื่องอย่าง ๙ ศาสตรา ก็ดูน่าสนใจมีที่มาที่ไป

สิ่งที่ไม่ค่อยคาดหวังมากนักก็คือเรื่องการพากย์เสียง ซึ่งในเรื่องได้ ไต้ฝุ่น เคพีเอ็น, โบว์ สาวิตรี, มิวสิค เอเอฟ และ น็อต วรฤทธิ์ มาให้เสียงตัวละครหลักนับว่าเป็นเรื่องค่อนข้างเกินความคาดหมาย ทุกคนทำออกมาได้ดี เนียนไปกับตัวละครนั้นๆ ส่วนเรื่องของเพลงประกอบภาพยนตร์ก็เข้ากับหนัง แต่อาจจะมีบางฉากที่ใส่เพลงประกอบเข้าไปแล้วทำให้ไม่เข้ากันอย่างมาก แต่โดยรวมก็ถือว่าดี

แน่นอนว่าสิ่งที่ดีที่สุดในภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้ก็คืองานภาพที่มีความละเอียด คาแร็คเตอร์ตัวละครชัดเจน ทั้งยังใส่สถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญเอาไว้ด้วย เชื่อว่าใครที่ได้ชมน่าจะอยากไปสถานที่จริงกันบ้าง

และแม้ว่าหนังจะใช้ข้อคิดและคำสอนบางอย่างที่ออกจะเป็นการยัดเยียดให้คนดูพอสมควร จึงทำให้รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ๙ ศาสตรา ก็ถือเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นเปี่ยมไปด้วยคุณภาพอีกเรื่องหนึ่ง อาจจะมีบางจุดที่ไม่ได้ดี 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เชื่อว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและผู้ชมน่าจะได้อะไรหลายๆ มากกว่าที่คิดแน่นอน

Comments

Popular posts from this blog

รีวิวหนัง :The Boy the Mole the Fox and the Horse (2022)

รีวิวหนัง Frozen2 ผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ

รีวิวหนัง:Marcel the Shell with Shoes On (2021)